e LEARNING LOG f
วิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์ ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2550
อาจารย์ประจำวิชา อาจารย์ชยการ คีรีรัตน์ อาจารย์นิสิต กันตพงศ์ ปิ่นปัทมเรขา
อาจารย์นิสิต มารีน่า จงเลิศเจษฎาวงศ์
บันทึกประจำวันที่ …12…../…11..…/….50.….
ชื่อ-นามสกุล…
สุทธิพันธ์ วชิรคพรรณ…………………………………………………………………..
ชั้น……3/3………………………………………………เลขที่…33………………….
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเรียนการสอนในวันนี้…………ไขข้อข้องใจเช่นการที่คนกระโดดลงไปในน้ำและกลับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วการตัดต่อคลิปต่างๆการปรับสี………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
ประโยชน์ที่จะนำไปใช้ในการทำงานกลุ่ม…………
การที่เราสามารถปรับระดับสีให้สว่างขึ้นได้และสามารถปรับแต่งหนังโดยที่ใช้วิธีที่ง่ายกว่าที่คิด………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สิ่งที่จะไปค้นคว้าเพิ่มเติม……………
การที่จะประยุกไปใช้กับหนังของผม……………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
………………………………………………………………………………………………….......
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม……ควรให้ลองใช้ในโปรแกรมเยอะๆ……………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
………………………………………………………………………………………………….......
________________________________________________
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
e LEARNING LOG f
วิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์ ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2550
อาจารย์ประจำวิชา อาจารย์ชยการ คีรีรัตน์ อาจารย์นิสิต กันตพงศ์ ปิ่นปัทมเรขา
อาจารย์นิสิตมารีน่า จงเลิศเจษฎาวงศ์
บันทึกประจำวันที่ …5…../….11.…/….2007.….
ชื่อ-นามสกุล……………สุทธิพันธ์ วชิรคพรรณ………………………………………………………..
ชั้น………………3/3……………………………………เลขที่………33…………….
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเรียนการสอนในวันนี้……โปรแกรมการตัดต่อที่ไม่ใช่moviemakkerกับphotoshop……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
ประโยชน์ที่จะนำไปใช้ในการทำงานกลุ่ม……การใส่ลูกเล่นต่างๆที่U-leadเท่านั้นที่ที่ทำได้……………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สิ่งที่จะไปค้นคว้าเพิ่มเติม……การใช้โปรแกรมนี้ให้ใช้กับหนังของผมได้……………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
………………………………………………………………………………………………….......
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม………ควรสอนนานกว่านี้…………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
………………………………………………………………………………………………….......
________________________________________________
วิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์ ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2550
อาจารย์ประจำวิชา อาจารย์ชยการ คีรีรัตน์ อาจารย์นิสิต กันตพงศ์ ปิ่นปัทมเรขา
อาจารย์นิสิตมารีน่า จงเลิศเจษฎาวงศ์
บันทึกประจำวันที่ …5…../….11.…/….2007.….
ชื่อ-นามสกุล……………สุทธิพันธ์ วชิรคพรรณ………………………………………………………..
ชั้น………………3/3……………………………………เลขที่………33…………….
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเรียนการสอนในวันนี้……โปรแกรมการตัดต่อที่ไม่ใช่moviemakkerกับphotoshop……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
ประโยชน์ที่จะนำไปใช้ในการทำงานกลุ่ม……การใส่ลูกเล่นต่างๆที่U-leadเท่านั้นที่ที่ทำได้……………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สิ่งที่จะไปค้นคว้าเพิ่มเติม……การใช้โปรแกรมนี้ให้ใช้กับหนังของผมได้……………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
………………………………………………………………………………………………….......
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม………ควรสอนนานกว่านี้…………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......
………………………………………………………………………………………………….......
________________________________________________
วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2550
การให้คะแนน
ลำดับ
ด้าน
น้ำหนักคะแนน
คะแนนที่ให้
คะแนนจริง
บรรยายเหตุผล
1
เวลา(2-5นาที)
10
10
10
2
ความน่าสนใจ
30
20
20
3
คุณภาพ
20
13
13
4
การสื่อสารของภาพยนตร์
20
17
17
5
การเริ่มการจบ
10
7
7
6
ความพร้อมการเตรียมงาน
10
7
7
100
74
74
ด้าน
น้ำหนักคะแนน
คะแนนที่ให้
คะแนนจริง
บรรยายเหตุผล
1
เวลา(2-5นาที)
10
10
10
2
ความน่าสนใจ
30
25
25
3
คุณภาพ
20
20
20
4
การสื่อสารของภาพยนตร์
20
20
20
5
การเริ่มการจบ
10
10
10
6
ความพร้อมการเตรียมงาน
10
10
10
100
95
95
ด้าน
น้ำหนักคะแนน
คะแนนที่ให้
คะแนนจริง
บรรยายเหตุผล
1
เวลา(2-5นาที)
10
10
10
2
ความน่าสนใจ
30
20
20
3
คุณภาพ
20
15
15
4
การสื่อสารของภาพยนตร์
20
15
15
5
การเริ่มการจบ
10
8
8
6
ความพร้อมการเตรียมงาน
10
10
10
100
78
78
ด้าน
น้ำหนักคะแนน
คะแนนที่ให้
คะแนนจริง
บรรยายเหตุผล
1
เวลา(2-5นาที)
10
10
10
2
ความน่าสนใจ
30
20
20
3
คุณภาพ
20
13
13
4
การสื่อสารของภาพยนตร์
20
17
17
5
การเริ่มการจบ
10
7
7
6
ความพร้อมการเตรียมงาน
10
7
7
100
74
74
ด้าน
น้ำหนักคะแนน
คะแนนที่ให้
คะแนนจริง
บรรยายเหตุผล
1
เวลา(2-5นาที)
10
10
10
2
ความน่าสนใจ
30
25
25
3
คุณภาพ
20
20
20
4
การสื่อสารของภาพยนตร์
20
20
20
5
การเริ่มการจบ
10
10
10
6
ความพร้อมการเตรียมงาน
10
10
10
100
95
95
ด้าน
น้ำหนักคะแนน
คะแนนที่ให้
คะแนนจริง
บรรยายเหตุผล
1
เวลา(2-5นาที)
10
10
10
2
ความน่าสนใจ
30
20
20
3
คุณภาพ
20
15
15
4
การสื่อสารของภาพยนตร์
20
15
15
5
การเริ่มการจบ
10
8
8
6
ความพร้อมการเตรียมงาน
10
10
10
100
78
78
วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2550
story board
ภาพยนตร์โฆษณา ยาหม่องน้ำตราฟรุตตี้
ตัวละคร
ฟารินทร์ : คนพากย์
ดิศรณ์ : จอมยุทธ์ ด๋อน(พ่อ)
สุทธิพันธ์ : จอมยุทธ์ช่อย(แม่)
วิน : จอมยุทธ์วิน(ลูก)
บทนำเรื่อง
มีศาลท้าประลองปักตั้งอยู่กลางทางให้เชิญ เหล่าจอมยุทะทั้งหลายมาประลองยุทะกันที่ ดงป่าเขาฟรุตตี้ ผู้เขียนศาลท้าประลองคือ จอมยุทธ์วด๋อน ชาวบ้านต่างก็เฝ้าดูการประลองระหว่างจอมยุทธ์ด๋อนและจอมยุทธ์วิน แล้วก็ใกล้ถึงวันประลองขึ้นมาทุกที...
กลางเรื่อง
จอมยุทธ์ทั้ง2ได้มาพบกันต่งคนต่างโค้งคำนับกันและกันแสดงถึงความให้เกียรติ จากนั้นทั้ง2ได้สู้กันอย่างสูสี ดุเด็ดเผ็ดมันการต่อสู้เป็นไปอย่างทุลักทุเล
แต่สุดท้ายจอมยุทะวินเสียทีโดนจอมยุทธ์ด๋อนปัดดาบแล้วเอาดาบจ่อคอเตรียมตัดหัวแต่แล้วก็มีผู้หญิงเฒ่ากระโดดออกมาขวางแล้วก็มาบอกว่าจอมยุทธ์ด๋อนเป็นพ่อของจอมยุทธ์วิน แล้วก็จบอย่างมีความสุข
ตัวละคร
ฟารินทร์ : คนพากย์
ดิศรณ์ : จอมยุทธ์ ด๋อน(พ่อ)
สุทธิพันธ์ : จอมยุทธ์ช่อย(แม่)
วิน : จอมยุทธ์วิน(ลูก)
บทนำเรื่อง
มีศาลท้าประลองปักตั้งอยู่กลางทางให้เชิญ เหล่าจอมยุทะทั้งหลายมาประลองยุทะกันที่ ดงป่าเขาฟรุตตี้ ผู้เขียนศาลท้าประลองคือ จอมยุทธ์วด๋อน ชาวบ้านต่างก็เฝ้าดูการประลองระหว่างจอมยุทธ์ด๋อนและจอมยุทธ์วิน แล้วก็ใกล้ถึงวันประลองขึ้นมาทุกที...
กลางเรื่อง
จอมยุทธ์ทั้ง2ได้มาพบกันต่งคนต่างโค้งคำนับกันและกันแสดงถึงความให้เกียรติ จากนั้นทั้ง2ได้สู้กันอย่างสูสี ดุเด็ดเผ็ดมันการต่อสู้เป็นไปอย่างทุลักทุเล
แต่สุดท้ายจอมยุทะวินเสียทีโดนจอมยุทธ์ด๋อนปัดดาบแล้วเอาดาบจ่อคอเตรียมตัดหัวแต่แล้วก็มีผู้หญิงเฒ่ากระโดดออกมาขวางแล้วก็มาบอกว่าจอมยุทธ์ด๋อนเป็นพ่อของจอมยุทธ์วิน แล้วก็จบอย่างมีความสุข
วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2550
story board
ยาหม่องน้ำตราฟรุ๊ตตี้
ตัวละครที่แสดง
ดิศรณ์ : จอมยุทธด่อน(พ่อ)
สุทธิพันธ์: จอมยุทธช่อย(แม่)
วิน: จอมยุทธวิน(ลูก)
ฟารินทร์: คนพากก์และเจ้าของ เบรน ยาหม่องนำตราฟรุ๊ตตี้
บทนำเรื่อง
ณ เมืองแห่งหนึ่งมีศาลท้าประลองปักตั้งอยู่กลางทางให้เชิญ จอมยุทธวินมาประลองยุทธฝีมือ ณ ดงป่าเขาฟรุ๊ตตี้ ผู้เขียนศาลท้าประลองคนนั้นคือ จอมยุทธวินซึ่งชาวบ้านที่เดผ่านไปมาล้วนอยากดูการประลองกันทั้งสิ้น ส่วนทางด้สานจอมยุทธที่จอมยุทธวินท้าประลองมานั้นมีท่า ดาบนกขมิ้น
แต่ไฉนเลยจอมยุทธวินก็มีท่า ดาบเทพอสูรคืนฟ้าดิน และก็ใกล้ถึงวันประลองเข้ามาทุกที....
กลางเรื่อง
เมื่อถึงวันประลองในฟดูใบไม้ร่วงตามสสนาม
การทำspilt
ขั้นแรกไปที่ timeline นะ เลือกช่วงเวลาที่ต้องการแบ่งแยกออกจากกันเหมือนกับจะตัดให้เป็นสองท่อน แล้วก็ กดปุ่ม spilt ตรงหน้าจอที่จะแสดงภาพยนตร์ แถบตรงที่อยู่ข้างล่างหน้าจอดำๆ หรือว่า จะเลือก clip ที่ menubar แล้วก็เลือก splitหรือว่า จะกด Ctrl+l ก็ได้จบแล้ว มีให้เลือก 3 วิธี แล้วก็ โยกย้ายคลิบไปมา ไม่ก็ลบทิ้งตามแต่แล้วก็ใส่ video translation จบอาจจะงงแต่ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และเป็นจุดเริ่มต้นของการตัดต่อภาพยนตร์
ขั้นแรกไปที่ timeline นะ เลือกช่วงเวลาที่ต้องการแบ่งแยกออกจากกันเหมือนกับจะตัดให้เป็นสองท่อน แล้วก็ กดปุ่ม spilt ตรงหน้าจอที่จะแสดงภาพยนตร์ แถบตรงที่อยู่ข้างล่างหน้าจอดำๆ หรือว่า จะเลือก clip ที่ menubar แล้วก็เลือก splitหรือว่า จะกด Ctrl+l ก็ได้จบแล้ว มีให้เลือก 3 วิธี แล้วก็ โยกย้ายคลิบไปมา ไม่ก็ลบทิ้งตามแต่แล้วก็ใส่ video translation จบอาจจะงงแต่ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และเป็นจุดเริ่มต้นของการตัดต่อภาพยนตร์
วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2550
ข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ลำปาง
ในความเป็นมาในการค้นพบโบราณวัตถุสำคัญได้มีการค้นพบฟอสซิลโฮโมอิเร็คตัสอายุประมาณ 5 แสนปี นับเป็นครั้งแรกที่พบฟอสซิล มนุษย์โบราณ โดยชาวพื้นเมืองเจ้าของประเทศและเป็นการเปิดเผยโฉมหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับวิวัฒนาการ การเกิดขึ้นเป็นมนุษย์ในแผ่นดินไทยและในทวีปเอเชียโฮโม อิเร็คตัส ที่ค้นพบได้จากจังหวัดลำปาง น่าจะได้รับการขนานนามว่า “ มนุษย์สยาม “ (Siam Man) “ มนุษย์ลำปาง ” ( Lampang Man ) หรือ “ มนุษย์เกาะคา ” (KO-KHA Man) ตามแหล่งที่ค้นพบที่ตั้งของแหล่งที่ทำการสำรวจและขุดค้น เป็นซอกหลืบหินปูน หรือโพลงถ้ำที่บริเวณเพดานพังลงมาทีหลังในภูมิประเทศแบบคาสต์ (relative open rockshelter, kast cave in filling) ใกล้แม่น้ำวัง แหล่งซากดึกดำบรรพ์เขาป่าหนามนี้ มีสภาพพิเศษที่เอื้ออำนวยให้ซากดึกดำบรรพ์ถูกเก็บรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพที่ดีพอสมควร โดยสารฟอสเฟตซึ่งเกิดจากมูลค้างคาวสลายตัวและห่อหุ้มซากกระดูกทั้งหลายเอาไว้ภายในหลืบ – ซอกของพื้นถ้ำ ทั้งนี้ เนื่องจากสารฟอสเฟต เป็นสารที่ไม่ละลายน้ำผิวดินหรือใต้ดิน
http://www.lp-ju.ago.go.th/travel/homoerectus.htm
ในความเป็นมาในการค้นพบโบราณวัตถุสำคัญได้มีการค้นพบฟอสซิลโฮโมอิเร็คตัสอายุประมาณ 5 แสนปี นับเป็นครั้งแรกที่พบฟอสซิล มนุษย์โบราณ โดยชาวพื้นเมืองเจ้าของประเทศและเป็นการเปิดเผยโฉมหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับวิวัฒนาการ การเกิดขึ้นเป็นมนุษย์ในแผ่นดินไทยและในทวีปเอเชียโฮโม อิเร็คตัส ที่ค้นพบได้จากจังหวัดลำปาง น่าจะได้รับการขนานนามว่า “ มนุษย์สยาม “ (Siam Man) “ มนุษย์ลำปาง ” ( Lampang Man ) หรือ “ มนุษย์เกาะคา ” (KO-KHA Man) ตามแหล่งที่ค้นพบที่ตั้งของแหล่งที่ทำการสำรวจและขุดค้น เป็นซอกหลืบหินปูน หรือโพลงถ้ำที่บริเวณเพดานพังลงมาทีหลังในภูมิประเทศแบบคาสต์ (relative open rockshelter, kast cave in filling) ใกล้แม่น้ำวัง แหล่งซากดึกดำบรรพ์เขาป่าหนามนี้ มีสภาพพิเศษที่เอื้ออำนวยให้ซากดึกดำบรรพ์ถูกเก็บรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพที่ดีพอสมควร โดยสารฟอสเฟตซึ่งเกิดจากมูลค้างคาวสลายตัวและห่อหุ้มซากกระดูกทั้งหลายเอาไว้ภายในหลืบ – ซอกของพื้นถ้ำ ทั้งนี้ เนื่องจากสารฟอสเฟต เป็นสารที่ไม่ละลายน้ำผิวดินหรือใต้ดิน
http://www.lp-ju.ago.go.th/travel/homoerectus.htm
วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
ตะกวด(แลน)
สัตวเลื้อนคลาน
Clouded Monitor(Bengal Monitor)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Varanus bengalensis
ลักษณะทั่วไป พื้นตัวเป็นสีเทาเหลืองหรือน้ำตาลเทา เกล็ดเป็นสีเหลืองหรือเป็นจุด ๆ เมื่อมองผ่าน ๆ จึงดูตัวเป็นสีเหลือง
ถิ่นอาศัย, อาหาร พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งอินเดียและพม่า ตะกวดกินไก่ นก ปลา กบ เขียด หนู กินได้ทั้งของสดและของเน่า
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์ ไม่ดุเท่าเหี้ย ชอบอาศัยอยู่ตามต้นไม้ แต่ว่ายน้ำและดำน้ำไม่เก่งเท่าเหี้ย ปกติชอบอยู่ใกล้น้ำเช่นเดียวกัน แต่บางทีอาจพบได้ตามป่าโปร่งและเนินเขาไกลจากลำน้ำ ตะกวดจะโตเต็มที่เมื่อมีอายุ 3 ปี วางไข่ครั้งละ 20 ฟองในฤดูฝน ฟักออกเป็นตัวง่าย ออกไข่ในหลุมดิน เช่นเดียวกับเหี้ย สถานภาพปัจจุบัน เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 สถานที่ชม สวนสัตว์ดุสิต
เหี้ย,เหี้ยลายดอก(ตัวเงิน ตัวทอง)
สัตวเลื้อนคลาน
Water Monitor
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Varanus salvator
ลักษณะทั่วไป ตัวสีดำ ลิ้นสีม่วงปลายแฉก มีลายดอกสีขาวหรือเหลืองเป็นแถวพาดขวางตัว หางเป็นปล้องสีดำสลับกับเหลืองอ่อน หนังหยาบเป็นเกล็ด ลำตัวมีขนาดใหญ่กว่าสัตว์อื่นในจำพวกเดียวกัน แต่เล็กกว่ามังกรโคโมโด
ถิ่นอาศัย, อาหาร พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งอินเดียและศรีลังกา ในประเทศไทยพบได้ทุกภาค เหี้ยไม่เลือกอาหาร กินทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ สัตว์ปีก เช่น ไก่ นก ปลา กบ เขียด หนู กินได้ทั้งของสดและของเน่า
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์ ดุ ใช้หางเป็นอาวุธฟาดศัตรูแล้วใช้ปากกัด ชอบอยู่ใกล้น้ำว่ายน้ำ ดำน้ำเก่ง และขึ้นต้นไม้เก่งด้วย เหี้ยวางไข่ครั้งละ 15-30 ฟอง ขุดหลุมหรือทำโพรงเป็นที่วางไข่ ไม่ฟักไข่ คือพ่อแม่ไม่ต้องกกไข่ ลูกฟักตัวออกมาเองจากไข่โดยธรรมชาติ เมื่อลูกออกมาจากไข่แล้วก็หากินเอง เปลือกไข่นิ่มแต่เหนียว
สถานภาพปัจจุบัน เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 สถานที่ชม สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์นครราชสีมา
เหี้ยดำ(มังกรดำ)
สัตวเลื้อนคลาน
Black Jungle Monitor
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Varanus salvator komaini
ลักษณะทั่วไป มีขนาดเล็กกว่าเหี้ยมาก เมื่อโตเต็มวัยจากปลายากถึงโคนหาง 50 เซนติเมตร หางยาว 60 เซนติเมตร มังกรดำ สีดำสนิทด้านทั้งตัว ไม่มีลายและจุดด่างเลย ท้องเทาเข้ม ลิ้นสีเทาม่วง มังกรดำเป็น Monitor ชนิดที่พบใหม่ มีรูปลักษณะคล้ายเหี้ย ลักษณะของเกล็ดผิดเพี้ยนกันเพียงเล็กน้อย
ถิ่นอาศัย, อาหาร มังกรดำพบได้เฉพาะบริเวณชายทะเลและเกาะเล็ก ๆ ทางฝั่งตะวันตกภาคใต้ของประเทศไทย พฤติกรรม, การสืบพันธุ์ อุปนิสัยคล้ายตะกวดดำที่พบในปาปัวนิกินีมาก
สถานภาพปัจจุบัน สถานที่ชม สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์นครราชสีมา
http://www.zoothailand.org/animals/reptiles_th.asp?id=36 http://www.zoothailand.org/animals/reptiles_th.asp?id=35
http://www.zoothailand.org/animals/reptiles_th.asp?id=18
จากที่ได้ทราบจากบทความข้างต้นทำให้รู้ว่าเห้ยกับตะกวดต่างกันที่นิสัยและความสามารถต่างๆครับ
สัตวเลื้อนคลาน
Clouded Monitor(Bengal Monitor)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Varanus bengalensis
ลักษณะทั่วไป พื้นตัวเป็นสีเทาเหลืองหรือน้ำตาลเทา เกล็ดเป็นสีเหลืองหรือเป็นจุด ๆ เมื่อมองผ่าน ๆ จึงดูตัวเป็นสีเหลือง
ถิ่นอาศัย, อาหาร พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งอินเดียและพม่า ตะกวดกินไก่ นก ปลา กบ เขียด หนู กินได้ทั้งของสดและของเน่า
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์ ไม่ดุเท่าเหี้ย ชอบอาศัยอยู่ตามต้นไม้ แต่ว่ายน้ำและดำน้ำไม่เก่งเท่าเหี้ย ปกติชอบอยู่ใกล้น้ำเช่นเดียวกัน แต่บางทีอาจพบได้ตามป่าโปร่งและเนินเขาไกลจากลำน้ำ ตะกวดจะโตเต็มที่เมื่อมีอายุ 3 ปี วางไข่ครั้งละ 20 ฟองในฤดูฝน ฟักออกเป็นตัวง่าย ออกไข่ในหลุมดิน เช่นเดียวกับเหี้ย สถานภาพปัจจุบัน เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 สถานที่ชม สวนสัตว์ดุสิต
เหี้ย,เหี้ยลายดอก(ตัวเงิน ตัวทอง)
สัตวเลื้อนคลาน
Water Monitor
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Varanus salvator
ลักษณะทั่วไป ตัวสีดำ ลิ้นสีม่วงปลายแฉก มีลายดอกสีขาวหรือเหลืองเป็นแถวพาดขวางตัว หางเป็นปล้องสีดำสลับกับเหลืองอ่อน หนังหยาบเป็นเกล็ด ลำตัวมีขนาดใหญ่กว่าสัตว์อื่นในจำพวกเดียวกัน แต่เล็กกว่ามังกรโคโมโด
ถิ่นอาศัย, อาหาร พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งอินเดียและศรีลังกา ในประเทศไทยพบได้ทุกภาค เหี้ยไม่เลือกอาหาร กินทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ สัตว์ปีก เช่น ไก่ นก ปลา กบ เขียด หนู กินได้ทั้งของสดและของเน่า
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์ ดุ ใช้หางเป็นอาวุธฟาดศัตรูแล้วใช้ปากกัด ชอบอยู่ใกล้น้ำว่ายน้ำ ดำน้ำเก่ง และขึ้นต้นไม้เก่งด้วย เหี้ยวางไข่ครั้งละ 15-30 ฟอง ขุดหลุมหรือทำโพรงเป็นที่วางไข่ ไม่ฟักไข่ คือพ่อแม่ไม่ต้องกกไข่ ลูกฟักตัวออกมาเองจากไข่โดยธรรมชาติ เมื่อลูกออกมาจากไข่แล้วก็หากินเอง เปลือกไข่นิ่มแต่เหนียว
สถานภาพปัจจุบัน เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 สถานที่ชม สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์นครราชสีมา
เหี้ยดำ(มังกรดำ)
สัตวเลื้อนคลาน
Black Jungle Monitor
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Varanus salvator komaini
ลักษณะทั่วไป มีขนาดเล็กกว่าเหี้ยมาก เมื่อโตเต็มวัยจากปลายากถึงโคนหาง 50 เซนติเมตร หางยาว 60 เซนติเมตร มังกรดำ สีดำสนิทด้านทั้งตัว ไม่มีลายและจุดด่างเลย ท้องเทาเข้ม ลิ้นสีเทาม่วง มังกรดำเป็น Monitor ชนิดที่พบใหม่ มีรูปลักษณะคล้ายเหี้ย ลักษณะของเกล็ดผิดเพี้ยนกันเพียงเล็กน้อย
ถิ่นอาศัย, อาหาร มังกรดำพบได้เฉพาะบริเวณชายทะเลและเกาะเล็ก ๆ ทางฝั่งตะวันตกภาคใต้ของประเทศไทย พฤติกรรม, การสืบพันธุ์ อุปนิสัยคล้ายตะกวดดำที่พบในปาปัวนิกินีมาก
สถานภาพปัจจุบัน สถานที่ชม สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์นครราชสีมา
http://www.zoothailand.org/animals/reptiles_th.asp?id=36 http://www.zoothailand.org/animals/reptiles_th.asp?id=35
http://www.zoothailand.org/animals/reptiles_th.asp?id=18
จากที่ได้ทราบจากบทความข้างต้นทำให้รู้ว่าเห้ยกับตะกวดต่างกันที่นิสัยและความสามารถต่างๆครับ
วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
แร้ง
แร้งเป็นสัตว์ที่กินซากสัตว์ที่ตายแล้ว ซึ่งไม่เหมือนกับนกล่าเหยื่อประเภทอื่น ๆ มีอุ้งเท้าไม่แข็งแรงและไม่เหมาะที่จะจับสัตว์ที่มีชีวิต มีปากขนาดใหญ่ไว้สำหรับฉีกเนื้อ หัวและคอของมันแทบจะไม่มีขนเลย แร้งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ แร้งโลกเก่าและแร้งโลกใหม่(อเมริกา) ถึงแม้ว่ารูปร่างและนิสัยจะเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ลักษณะเฉพาะตัวจึงทำให้อยู่คนละตระกูล แร้ง มีหลายชนิด เช่น
1.แร้งแอนดีส
2.แร้งกริฟฟอง
3.แร้งอียิปต์
4.แร้งเตอร์กี
5.พญาแร้งอเมริกัน
นกแร้ง
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร
Animalia
ไฟลัม
Chordata
ชั้น
Aves
Orders
Falconiformes (Fam. Accipitridae (part))Ciconiiformes (Fam. Cathartidae)
ลักษณะนิสัย
ลักษณะรูปร่าง พญาแร้ง เป็น นกขนาดใหญ่ ขนาดประมาณ 81 - 85 ซม. หางสั้น ปลายหางค่อนข้าง เป็นรูปพลั่ว ตัวเต็มวัยสีตามลำตัวออกเป็นสีดำ อก และ สีข้างมีแถบสีขาว บริเวณหัว คอ และ ขา สีแดง ปีกสีดำ บริเวณโคน ขน ปลายปีกทั้งด้านบน และ ด้านล่างมีลายพาดสีเทา ตัวไม่เต็มวัย ของ พญาแร้ง แตกต่างจากตัวไม่เต็มวัย ของอีแร้ง อื่นๆ ตรงที่มีสีขาว บริเวณท้องตอนล่าง และ ขนคลุมโคนหาง ในขณะที่ตัวที่ไม่เต็มวัย ของ แร้งอื่นๆ มักจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หัว ปกคลุมไปด้วยขนอุยสีขาว
นิสัยประจำพันธุ์ พญาแร้ง เป็นนกที่มีกิจกรรมต่างๆ และ หากินในตอนกลางวัน พบตามทุ่งนา พื้นที่เกษตรกรรม ทุ่งโล่ง และป่าต่างๆ มักจะพบ อยู่เป็น ฝูงเล็กๆ ราว 2 - 5 ตัว หรือ อาจจะพบอยู่กับฝูงแร้งเทาหลังขาว เราอาจจะพบมันกำลังร่อนเป็นวงกลมอยู่กลางอากาศ หรือ จับเกาะตามกิ่งแห้งของต้นไม้ หรือ ลงเกาะตามพื้นดิน
อาหารของพญาแร้ง ได้แก่ ซากสัตว์ต่างๆ ซึ่งสัตว์ผู้ล่าอื่นๆ ทิ้งเอาไว้ หรือซากสัตว์ที่มนุษย์นำไปทิ้ง หรือแม้แต่ซากศพมนุษย์ซึ่งถูกทิ้งไว้ อย่างเช่นคนพื้นเมืองบางท้องที่ ของ ประเทศอินเดีย นิยมทิ้งศพไว้ให้แร้งกิน
พญาแร้ง มีพฤติกรรมการหาอาหาร ด้วยการจ้องมองหาอาหาร ขณะที่ร่อนอยู่กลางอากาศ เมื่อเห็นอาหาร มันจะบินลงมากิน โดยใช้จะงอยปาก ฉีกซากสัตว์ และ ปกติ จะกินเครื่องในก่อน จากนั้นจึงจะกินเนื้อทีหลัง หากมี สัตว์อื่น ที่แข็งแรงกว่า เช่น เสือ กินซากสัตว์อยู่แล้ว พญาแร้งจะคอยจนกระทั่งเสืออิ่ม และ ผละจากไป จึงจะเข้าไปกิน อาหารต่อ และ จะไล่นกชนิดอื่น รวมทั้งสัตว์อื่นๆ ที่มาแย่งอาหารนั้นด้วย
ฤดูผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ พญาแร้ง ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาว ต่อ ฤดูร้อน หรือ ระหว่างเดือนธันวาคม ถึง เดือน เมษายน ทำรังตามต้นไม้โดยเฉพาะต้นตาล และ ต้นยางนา เป็นรังขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นอย่างหยาบๆ โดยใช้กิ่งไม้ต่างๆ วางซ้อนทับตามคอต้นตาล หรือ ตามง่ามของกิ่งไม้ ตัวผู้ และ ตัวเมีย จะช่วยกันเลือกสถานที่สร้างรัง หาวัสดุ และ ร่วมกันสร้างรัง ไข่ มีสีขาว ขนาดโดยเฉลี่ย 66.0 X 83.9 มม. ตัวเมียวางไข่คราวละ ฟองเดียว ระยะเวลา ฟักไข่ ประมาณ 45 วัน ลูกที่ฟักออกจากไข่ใหม่ๆ มีขนอุยสีขาวปกคลุม ลำตัว แต่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะการ หาอาหาร มาป้อน และ ดูแลจนกระทั่งลูกแข็งแรง และ บินได้ จากนั้นจึงจะทิ้งรังไป
การแพร่กระจายพันธุ์ อินเดีย เนปาล ตะวันตกเฉียงเหนือของบังคลาเทศ , ตะวันตกเฉียงใต้ของจีน (โดยเฉพาะ ตะวันตก และ ทิศใต้ ของมณฑลยูนนาน ) , มีรายงานการพบบ้างในปากีสถาน , สำหรับเอเซียตะวันออก เฉียงใต้ เป็นนกประจำถิ่นที่หายากมาก ทางภาคตะวันตก ของประเทศไทย , ภาคใต้ของลาว , ตะวันออกเฉียงเหนือ ของกัมพูชา , ตอนเหนือ และ ตอนใต้ ของแคว้นอันนัม ในเวียตนาม , เคยมีรายงานการพบในภาคกลาง ภาคตะวันตก เฉียงเหนือ และภาคใต้ ของประเทศไทย , ภาคเหนือของ คาบสมุทร มาลายา , ภาคเหนือ ภาคกลาง ของลาว , ประเทศ ในแถบอินโดจีน , เคยมีรายงาน แต่ปัจจุบันไม่ทราบสถานภาพที่แน่นอน ในพม่า ภาคกลางของแคว้นอันนัม และ เคยมีรายงานไม่ได้รับการยืนยัน ในสิงคโปร์//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%87 http://www.skn.ac.th/skl/skn43/eagle05/vulture.htm http://www.zyworld.com/NAKARIN/HTMLredheadedvulture.htm
1.แร้งแอนดีส
2.แร้งกริฟฟอง
3.แร้งอียิปต์
4.แร้งเตอร์กี
5.พญาแร้งอเมริกัน
นกแร้ง
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร
Animalia
ไฟลัม
Chordata
ชั้น
Aves
Orders
Falconiformes (Fam. Accipitridae (part))Ciconiiformes (Fam. Cathartidae)
ลักษณะนิสัย
ลักษณะรูปร่าง พญาแร้ง เป็น นกขนาดใหญ่ ขนาดประมาณ 81 - 85 ซม. หางสั้น ปลายหางค่อนข้าง เป็นรูปพลั่ว ตัวเต็มวัยสีตามลำตัวออกเป็นสีดำ อก และ สีข้างมีแถบสีขาว บริเวณหัว คอ และ ขา สีแดง ปีกสีดำ บริเวณโคน ขน ปลายปีกทั้งด้านบน และ ด้านล่างมีลายพาดสีเทา ตัวไม่เต็มวัย ของ พญาแร้ง แตกต่างจากตัวไม่เต็มวัย ของอีแร้ง อื่นๆ ตรงที่มีสีขาว บริเวณท้องตอนล่าง และ ขนคลุมโคนหาง ในขณะที่ตัวที่ไม่เต็มวัย ของ แร้งอื่นๆ มักจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หัว ปกคลุมไปด้วยขนอุยสีขาว
นิสัยประจำพันธุ์ พญาแร้ง เป็นนกที่มีกิจกรรมต่างๆ และ หากินในตอนกลางวัน พบตามทุ่งนา พื้นที่เกษตรกรรม ทุ่งโล่ง และป่าต่างๆ มักจะพบ อยู่เป็น ฝูงเล็กๆ ราว 2 - 5 ตัว หรือ อาจจะพบอยู่กับฝูงแร้งเทาหลังขาว เราอาจจะพบมันกำลังร่อนเป็นวงกลมอยู่กลางอากาศ หรือ จับเกาะตามกิ่งแห้งของต้นไม้ หรือ ลงเกาะตามพื้นดิน
อาหารของพญาแร้ง ได้แก่ ซากสัตว์ต่างๆ ซึ่งสัตว์ผู้ล่าอื่นๆ ทิ้งเอาไว้ หรือซากสัตว์ที่มนุษย์นำไปทิ้ง หรือแม้แต่ซากศพมนุษย์ซึ่งถูกทิ้งไว้ อย่างเช่นคนพื้นเมืองบางท้องที่ ของ ประเทศอินเดีย นิยมทิ้งศพไว้ให้แร้งกิน
พญาแร้ง มีพฤติกรรมการหาอาหาร ด้วยการจ้องมองหาอาหาร ขณะที่ร่อนอยู่กลางอากาศ เมื่อเห็นอาหาร มันจะบินลงมากิน โดยใช้จะงอยปาก ฉีกซากสัตว์ และ ปกติ จะกินเครื่องในก่อน จากนั้นจึงจะกินเนื้อทีหลัง หากมี สัตว์อื่น ที่แข็งแรงกว่า เช่น เสือ กินซากสัตว์อยู่แล้ว พญาแร้งจะคอยจนกระทั่งเสืออิ่ม และ ผละจากไป จึงจะเข้าไปกิน อาหารต่อ และ จะไล่นกชนิดอื่น รวมทั้งสัตว์อื่นๆ ที่มาแย่งอาหารนั้นด้วย
ฤดูผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ พญาแร้ง ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาว ต่อ ฤดูร้อน หรือ ระหว่างเดือนธันวาคม ถึง เดือน เมษายน ทำรังตามต้นไม้โดยเฉพาะต้นตาล และ ต้นยางนา เป็นรังขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นอย่างหยาบๆ โดยใช้กิ่งไม้ต่างๆ วางซ้อนทับตามคอต้นตาล หรือ ตามง่ามของกิ่งไม้ ตัวผู้ และ ตัวเมีย จะช่วยกันเลือกสถานที่สร้างรัง หาวัสดุ และ ร่วมกันสร้างรัง ไข่ มีสีขาว ขนาดโดยเฉลี่ย 66.0 X 83.9 มม. ตัวเมียวางไข่คราวละ ฟองเดียว ระยะเวลา ฟักไข่ ประมาณ 45 วัน ลูกที่ฟักออกจากไข่ใหม่ๆ มีขนอุยสีขาวปกคลุม ลำตัว แต่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะการ หาอาหาร มาป้อน และ ดูแลจนกระทั่งลูกแข็งแรง และ บินได้ จากนั้นจึงจะทิ้งรังไป
การแพร่กระจายพันธุ์ อินเดีย เนปาล ตะวันตกเฉียงเหนือของบังคลาเทศ , ตะวันตกเฉียงใต้ของจีน (โดยเฉพาะ ตะวันตก และ ทิศใต้ ของมณฑลยูนนาน ) , มีรายงานการพบบ้างในปากีสถาน , สำหรับเอเซียตะวันออก เฉียงใต้ เป็นนกประจำถิ่นที่หายากมาก ทางภาคตะวันตก ของประเทศไทย , ภาคใต้ของลาว , ตะวันออกเฉียงเหนือ ของกัมพูชา , ตอนเหนือ และ ตอนใต้ ของแคว้นอันนัม ในเวียตนาม , เคยมีรายงานการพบในภาคกลาง ภาคตะวันตก เฉียงเหนือ และภาคใต้ ของประเทศไทย , ภาคเหนือของ คาบสมุทร มาลายา , ภาคเหนือ ภาคกลาง ของลาว , ประเทศ ในแถบอินโดจีน , เคยมีรายงาน แต่ปัจจุบันไม่ทราบสถานภาพที่แน่นอน ในพม่า ภาคกลางของแคว้นอันนัม และ เคยมีรายงานไม่ได้รับการยืนยัน ในสิงคโปร์//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%87 http://www.skn.ac.th/skl/skn43/eagle05/vulture.htm http://www.zyworld.com/NAKARIN/HTMLredheadedvulture.htm
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)